วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ท่วงท่า ลีลารัก



ถ้าเป็นสมัยคุณปู่ – คุณย่า ยังสาว ท่วงท่า ลีลารักก็คงจะเป็นแบบดั้งเดิม ที่เรียกว่า ท่านิวมิชชันนารี คือผู้หญิงอยู่ล่าง ผู้ชายอยู่บน สงครามรักก็คงจะไม่เร่าร้อน รุนแรงเหมือนกับสมัยที่เทคโนโลยีการสื่อสารเจริญรุดหน้าไปไกล จนเราสามารถเรียนรู้การมีเซ็กส์แบบไร้ขีดจำกัดในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ไม่ยาก จริงๆ แล้ว ชีวิตคู่ไม่จำเป็นจะต้องมีลีลารัก ที่เร่าร้อน ถึงกับเวลาเสร็จสิ้นสงครามรัก เตีียงนอนก็แทบจะยับเยิน จนจำสภาพเดิมแทบไม่ได้  แต่หลายๆ คนที่ให้ความสำคัญกับการมีเซ็กส์แบบเปลี่ยนท่าเพื่อหลีกหนีความซ้ำซาก พลอยทำให้อารมณ์หดเหี่ยว จนนึกออกตั้งแต่เริ่มแกะกระดุมเม็ดแรกกันเลยทีเดียว ว่า สุดท้ายมันจะไปจบลงที่ตรงการนอนแผ่หลา หรือหันหลังให้ โดยปล่อยให้ฝ่ายหญิงนอนค้างเติ่ง อารมณ์เสียวยังไปไม่ถึงจุดสุดยอดเหมือนฝ่ายชาย ที่หลั่งน้ำกามเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ



ชีวิตคู่ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ มีบ้าน มีรถ มีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ การมีเซ็กส์ที่เข้ากันได้ของคู่สามี-ภรรยา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นมาก หลังจากปิดประตูห้องนอนแล้ว ผู้หญิงก็ควรสลัดคราบแม่บ้าน working woman ทิ้งไว้นอกประตูนั้น แล้วสวมบทนางแมวยั่วสวาท  ผู้หญิงหลายๆ คนที่เห็นกิริยามารยาทเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่พออยู่ตามลำพังกับคุณสามี เธอจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งความตื่นตา ตื่นใจ ให้กับคุณสามีเป็นอันมาก

โดยเธอสามารถเปิดฉากเกมส์รัก ด้วยการเปลี่ยนท่วงท่า ลีลารักของเธอไปได้ไม่ซ้ำซาก เป็นการตอบสนองความต้องการของตัวเอง เพราะผู้หญิงมักจะรู้ดีว่า ท่าไหน ที่ทำให้เธอถึงจุดสุดยอดได้แบบนับครั้งไม่ถ้วนในขณะที่กำลังร่วมรัก และประการสำคัย เธอต้องการมัดใจสามีให้หลงในบ่วงสวาทของเธอจนดิ้นไม่หลุด  นอกจากท่าเบสิค ดั้งเดิมแล้ว ยังมีท่าหญิงอยู่บนชายอยู่ล่าง, หันหน้าเข้าหากัน, เข้าทางด้านหลัง, ด้านข้าง, ท่าอุ้มลอยเกาะเอว, ท่าหกคะเมน (69), ท่าโก้งโค้งและท่าควบม้า แต่ในขณะที่กำลังร่วมรักกันอยู่นั้น อย่าลืมเล้าโลมด้วยสายตา ลูบไล้ และใช้คำพูดกระตุ้นด้วย มีการพูดคุยเบาๆ เป็นจังหวะสอดรับ เมื่อฝ่ายชายสังเกตุเห็นว่า ฝ่ายหญิงใกล้ถึงจุดสุดยอด ด้วยการเกร็งมือ เกร็งเท้า หรือจิกตามเนื้อตัวของฝ่ายชาย สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ราบรื่น และหวานชื่นไปอีกยาวนาน

ศึกษาเพิ่มเติม คลิก !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น