วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เมื่อน้องหนูเกิดอาการแฮ้ง...แห้ง

          แม้ยังไม่ย่างเข้าสู่วัยทอง แต่ผู้หญิงบางคน อาจมีอาการช่องคลอดแห้งผาก จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อ เรื่องนี้ควรทำยังไงดีล่ะ


          นักร้องแสบซ่า เอมี่ ไวน์เฮาส์ เคยออกมา ร่วมรณรงค์ให้ผู้หญิงเราดูแลและใส่ใจน้องหนูกันให้มากขึ้น ถึงขนาดที่เธอเอง ออกมาร้องป่าวประกาศว่าตัวเอง เรียกน้องหนูว่า "Va-Jay-Jays" แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ เรียกน้องหนูของตัวเองว่าอย่างไร

          ส่วนนักร้องเปรี้ยวเข็ดฟันอย่าง เลดี้ กาก้า ก็ ให้ความสำคัญกับการดูแลน้องหนูของเธอไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้เธอเปรยว่าไม่ได้มีเซ็กซ์มานาน หลายเดือนแล้ว ฉะนั้น เธอจึงมีความเสี่ยงกับการติดเชื้อจากช่องคลอดน้อยกว่าที่ควรจะเป็น




          อย่างไรก็ดี เรื่องของน้องหนูนั้น ผู้หญิงเรา อาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก ยิ่งถ้าน้องหนูเกิดอาการแห้งผาก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงวัยหมดประจำเดือน เราก็ควร เริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพตรงนี้กันให้มากขึ้นแล้วนะคะ

อะไรคือช่องคลอดแห้ง 

          ปกติช่องคลอดจะมีสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ ซึ่งมีลักษณะเป็นมูกใส ๆ เหนียว ๆ หนืด ๆ ยิ่งในช่วงตกไข่ด้วยแล้ว มูกในช่องคลอดที่ว่านี้จะใสและหนืดมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มความหล่อลื่นในช่องคลอด ซึ่งสารหล่อลื่นที่ว่านี้ ช่วยให้เชื้ออสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น และลดการ เสียดสีไม่ให้อวัยวะเพศของทั้งสองฝ่ายถลอกหรือฉีกขาด อย่างไรก็ดี สาววัยเจริญพันธุ์บางคนอาจต้องพบเจอกับ ภาวะช่องคลอดแห้ง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงวัยอันควร ซึ่งมีสาเหตุ มาจากสุขภาพของช่องคลอดนั้นเริ่มไม่ค่อยดีแล้วนั่น เอง

 อาการช่องคลอดแห้งเป็นยังไง

          อย่างที่บอกว่า ช่องคลอดของผู้หญิงจะมีสาร หล่อลื่นตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คนที่มีปัญหาช่องคลอดแห้งมักจะมีอาการคัน แสบ และระคายเคือง โดยไม่มี อาการตกขาว อย่างไรก็ดี บางคนนั้นช่องคลอดแห้งจัดจนเลือดออก ไม่ก็ติดเชื้อในช่องคลอด เพราะเวลามีเพศ สัมพันธ์ไม่มีสารหล่อลื่นไหลออกมา ทำให้เวลาสอดใส่อวัยวะเพศเกิดการเสียดสี ทำให้ช่องคลอดถลอก เป็นแผล และติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใครโชคร้ายก็อาจจะติดเชื้อเอชไอวีเข้าให้โดยไม่รู้ตัว

 อะไรคือสาเหตุล่ะเนี่ย


  • ติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งอาจจะเป็นเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียก็ได้ แม้จะมีตกขาวออกมามาก แต่เซลล์เยื่อบุ ช่องคลอดมักจะแห้ง บางคนอาจจะรู้สึกอักเสบ แห้ง และคัน
  • ยาบางประเภท อย่างเช่น ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยารักษาโรคทางจิตเวช ยารักษาโรคภูมิแพ้และยา รักษาโรคมะเร็ง
  • โรค Sjogren’s Syndrome โรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองต่อต้านตัวเอง คนที่ป่วยด้วยโรค นี้จะมีอาการตาแห้ง ปากแห้ง และช่องคลอดแห้ง
  • การสวนล้างช่องคลอด ซึ่งสาว ๆ บางคนนิยมล้างช่องคลอดอยู่บ่อย ๆ ซึ่งการทำอย่างนี้จะทำให้ช่องคลอด แห้งและเสียความเป็นกรดไป
  • ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เซลล์ผนังช่องคลอดบางลง ขาดการยืดหยุ่น และเปราะบาง ซึ่งระดับ ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ไม่ก็ได้รับเคมีบำบัด หรือฉายรังสีบริเวณเชิงกรานทำให้ รังไข่ทำงานลดลง รวมถึงภาวะหลังคลอดและการให้นมลูก ที่ทำให้ร่างกายไม่ตกไข่ตามธรรมชาติ


ดูแลตัวเองยังไงดี
  • กินอาหารบำรุงเอสโตรเจน เช่น น้ำเต้าหู้ ถั่วเหลือง ฯลฯ
  • ใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ช่องคลอด ซึ่งสารนี้ จะให้ความชุ่มชื้นได้มากกว่าหนึ่งวัน
  • ใช้สารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยไม่ให้อวัยวะเพศเสียดสีจนถลอกเป็นแผลได้
  • งดการสวนล้างช่องคลอด เพราะการทำเช่นนี้ จะยิ่งทำให้ช่องคลอดสูญเสียความเป็นกรด ซึ่งทำให้แห้งและ ระคายเคืองได้ง่าย และเมื่อช่องคลอดแห้ง ก็จะติดเชื้อได้ง่าย
  • อาหารบำรุงช่องคลอด & อาหารควรหลีกเลี่ยง กระเทียมและกะหล่ำปลี ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยฆ่าเชื้อโรค ช่วยรักษาอาการช่องคลอดอักเสบได้เป็นอย่างดี
  • หัวหอมใหญ่และผักกาด โดยเฉพาะผักกาดเกาหลี จะช่วยลดการอักเสบของช่องคลอดและช่วยซ่อมแซมเยื่อ บุผิวได้
  • ข้าวสาลี ไอศกรีม มิลค์เชค ผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์ อาหารพวกนี้จะทำให้ช่องคลอดที่เป็นแผลมี อาการอักเสบมากขึ้น ฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยง

ดูแลน้องหนูยังไงดี

  • ล้างให้สะอาด ๆ โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำและถูสบู่ ควรล้างน้ำให้สะอาด ๆ เพื่อชะล้างคราบสบู่ และสิ่งสกปรก ออกจากน้องหนู
  • ไม่ใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอม เพราะสำหรับน้องหนู เราไม่จำเป็นต้องคงกลิ่นของสบู่ไว้บริเวณนั้น ทางที่ดีเลือกสบู่ ธรรมดา ๆ ดีกว่า
  • ปรึกษาหมอถ้ามีอะไรผิดปกติ อย่าทิ้งปัญหาไว้เรื้อรัง เช่น ผดผื่น ตุ่มใส ๆ บริเวณน้องหนูควรปรึกษาหมอว่า ติดโรคหรือเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นกันแน่
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ พยายามเลือกไซส์ไม่ใหญ่มาก และหมั่นเปลี่ยนทุก ๆ 6 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิด อาการเป็นพิษ หรือ Toxic Shock Syndrome (TSS) ขึ้น
  • ใส่กางเกงในทำจากผ้าฝ้าย เพราะจะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกขึ้น และช่วยให้ผิวหนังบริเวณน้องหนูไม่ เป็นผดผื่นด้วย
  • ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเพื่อป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์อันไม่พึง ประสงค์ 
  • หมั่นอาบน้ำ และทำความสะอาดน้องหนูอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อหลีกเลี่ยงการติด เชื้อ
  • หมั่นกินโยเกิร์ต เพราะในนั้นมีแบคทีเรียชนิดดีที่ร่างกายต้องการ ในทางกลับกันให้เพลา ๆ การกินน้ำตาลลง เพราะน้ำตาลจะเป็นตัวเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่โยเกิร์ตจะเพิ่มแบคทีเรียที่ไปฆ่า แบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์นั้น ๆ เสีย
แก้ปัญหาช่องคลอดแห้งยังไงดี

           1.มีกิจกรรมทางเพศมากขึ้น อย่าลืมแสดงความรักด้วยภาษากายอยู่เป็นประจำ เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้มีน้ำหล่อลื่นออกมาอยู่เป็นประจำสม่ำ เสมอ ซึ่งการกอดรัดสัมผัสกันเป็นประจำ ก็สามารถกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อลื่นได้แล้ว

           2.ตรวจสุขภาพและตรวจภายใน ถ้าเรามีปัญหาช่องคลอดแห้งและไม่มีน้ำหล่อลื่น เราควรไปตรวจภายในดูว่าผนังช่องคลอดบางผิดปกติ หรือมีการ อักเสบติดเชื้อของช่องคลอดและปากมดลูกหรือเปล่า ลองตรวจเลือดดูว่าระดับฮอร์โมนเพศหญิงอยู่ในระดับปกติมั้ย ซึ่งถ้าเราอายุเกิน 40 ปีเมื่อตรวจแล้วพบว่าระดับฮอร์โมนเพศหญิงต่ำกว่ามาตรฐาน ควรถามแพทย์ดูว่าควรรับ ฮอร์โมนเสริมหรือไม่ แต่บางคนแค่ทาฮอร์โมน ก็สามารถกลับมาชุ่มชื้นได้ดังเดิมแล้ว

           3.คุยกับคนรักหรือสามีของคุณ ถ้ามีอะไรคับข้องใจก็ต้องคุยและเคลียร์กันให้รู้เรื่อง เพราะไม่เช่นนั้นเวลามีสัมพันธ์ทางเพศ อีกฝ่ายจะไม่รู้สึกอยาก ร่วมกิจกรรมนี้ด้วย และพานทำให้ช่องคลอดไม่หลั่งสารหล่อลื่นออกมา ฉะนั้น ถ้าต้องการให้เขาเล้าโลมแบบไหน เอาใจแบบใดหรือคั่งค้างเรื่องอะไรในใจก็เคลียร์กันให้หมด

ศึกษาข้อมูลเพิ่ม คลิก !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น